การจับลูกเปตอง
วิธีการจับลูกเปตองแบบต่าง มีดังนี้
1.1
แบบนิ้วหัวแม่มือทั้งหมดอยู่ห่างกัน
หรือเรียกอีกอย่างว่าการจับด้วยปลายนิ้วมือ วิธีนี้พบเห็นทั้งการโยนลูกเข้าเป้า
และการยิง แต่พบเป็นจำนวนไม่มากนัก
ลักษณะการจับลูกเปตองคล้ายกับการหยิบสิ่งของหรือวัตถุต่างๆ ตามธรรมชาติ
การจับลูกเปตองโดยวิธีนี้เหมาะสำหรับผู้เล่นที่กำลังของข้อมือไม่ค่อยแข็งแรง อาศัยช่วงแขนส่งลูกเปตองออกไป ลูกที่ออกจากมือจะเกิดการหมุนกลับแบบลูกสกรู (Screw) น้อยมากหรือไม่มีเลย ทำให้ไม่เกิดแรงเหนี่ยวรั้งของลูก ควบคุมยากทั้งทิศทางและระยะทาง สำหรับมือวางหรือมือเกาะ หากสนามมีสภาพที่เรียบ เช่น
สนามหินฝุ่น
สนามลูกรังแบบละเอียดหรือสนามลู่วิ่ง
การจับแบบนี้จะโยนลูกได้ดีพอสมควร
เพียงแต่กะน้ำหนักของการโยนให้สัมพันธ์กับระยะทางระหว่างจุดที่โยนกับตำแหน่งที่ลูกเป้าอยู่
แต่ถ้าหากเป็นสนามวิบากซึ่งต้องใช้เทคนิคในการโยนลูกโด่งหรือที่นักกีฬาเปตองส่วนใหญ่เรียนกันว่าลูกดร๊อป
(Drop)
แล้วการจับลูกแบบนี้แทบจะใช้ไม่ได้ผลเลยเพราะการโยนลูกดร๊อปต้องอาศัยข้อมือสะบัดลูกขึ้นไปและนิ้วมือทั้งหมดจะควบคุมทิศทางในการปล่อยลูก เมื่อนิ้วมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระไม่ชิดกันโอกาสที่ลูกเปตองจะหลุดจากมือก่อนอันเนื่องมากจากแรงเหวี่ยงจะมีมาก
อีกประกาศหนึ่งนิ้วมือของคนเราแต่ละนิ้วนั้นจะมีความแข็งแรงไม่เท่ากัน ในขณะที่โยนลูกหากนิ้วมือนิ้วใดไม่สามารถควบคุมแรงส่งของลูกเปตองที่ปล่อยออกไปก็จะทำให้เสียทิศทาง สำหรับมือยิงการจับลูกเปตองแบบนี้มีให้พบเห็นน้อยมาก ไม่ค่อยมีใครนิยม
ที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะว่าในการยิ่งลูกนั้นต้องใช้แรงมากในการเหวี่ยงเพื่อส่งลูกให้ไปถึงเป้าหมาย
โอกาสที่ลูกจะหลุดจากมือก่อนและลูกจะเสียทิศทางจะเป็นไปได้มากเช่นเดียวกับการโยนลูกดร๊อป
1.2
แบบนิ้วมือทั้งสี่อยู่ชิดกัน ส่วนนิ้วหัวแม่มืออยู่ตรงข้ามกับนิ้วทั้งสี่ การจับลูกเปตองลักษณะนี้มีพบเห็นโดยทั่วไป แต่ก็มากกว่าแบบแรก โดยเฉพาะพบเห็นมือยิงมากกว่ามือวางหรือมือเกาะ
เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีกำลังข้อมือแข็งแรงปานกลาง นิ้วมือทั้งสี่จะควบคุมลูกให้ไปตามทิศทาง
นิ้วหัวแม่มือจะช่วยยกและประคองลูกเปตองขึ้น
การโยนส่วนใหญ่จะใช้ช่วงแขนออกแรงส่งลูกเปตองมากกว่าข้อมือ
ลูกเปตองที่ถูกปล่อยออกไปจากมือจะเป็นไปในลักษณะส่งลูกไปข้างหน้า
ทั้งมือเกาะ และมือยิงการปล่อยลูกเปตองจะมีลักษณะเดียวกัน ใช้โยนได้ทั้งสนามเรียบและสนามวิบาก
สำหรับมือเกาะการโยกลูกดร็อปที่จับแบบนี้หวังผลได้ไม่มากนัก
โดยเฉพาะลูกดร๊อปที่ต้องโยนให้ลูกลอยสูงแล้วตกใกล้ๆ
กับตำแหน่งที่ลูกเป้าวางอยู่
เพราะลูกจะหมุนสกรูกลับไม่ถึงตำแหน่งการบังคับลูกให้ตกลงตามจุดที่ต้องการก็ยาก
และโอกาสที่ลูกเปตองจะหลุดจากมือก่อนก็มีมากเช่นกัน สำหรับมือยิงแล้วใช้ได้ผลพอสมควรโดยเฉพาะในระยะ
8 – 10 เมตร แต่ถ้าระยะ 6 – 7 เมตร แล้วลูกที่ยิงมักจะข้ามเป้าหมาย
ผู้เขียนได้เคยสอบถามนักเปตองที่จับลูกโดยวิธีนี้หลายท่านทั้งมือเกาะและมือยิงแล้วได้รับคำตอบที่เหมือนๆ
กันว่าช่วยผ่อนแรงดี บังคับลูกได้ตรงทาง
1.3
แบบนิ้วมือทั้งสี่ชิดกันโดยปล่อยนิ้วหัวแม่มือเป็นอิสระ
การจับลูกเปตองแบบนี้พบเห็นมากกว่าสองแบบแรกทั้งมือเกาะและมือยิง
ลักษณะการจับลูกเปตองจะอยู่ในตำแหน่งกลางฝ่ามือ นิ้วทั้งสี่จับแบบโอบลูกไว้ ส่วนนิ้วหัวแม่มือปล่อยเป็นอิสระไม่สัมผัสลูกเปตองจึงเห็นได้ว่าจะเป็นการจับเพียงสี่นิ้วเท่านั้น
การจับลูกแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีกำลังข้อมือแข็งแรง
การส่งลูกจะใช้ช่วงแขนกับข้อมือเป็นหลัก
ข้อมือจะบังคับให้ลูกเปตองลอยสูงหรือต่ำ
ลูกสกูรกลับมากหรือน้อยก็ได้
นิ้วทั้งสี่จะบังคับให้ลูกที่ปล่อยอกไปในทิศทางที่ต้องการได้ดี ใช้ได้ผลทั้งสนามเรียบและสนามวิบาก
สามารถโยนและบังคับลูกตกพื้นสนามได้ทุกระยะ การจับแบบนี้มีข้อจำกัดบางประการ คือ
นิ้วมือทั้งสี่จะเมื่อยล้าง่ายเมื่อโยนลูกเปตองติดต่อกันนานๆ
เนื่องจากนิ้วทั้งสี่ต้องจับและกดลูกแน่กว่าปกติเพื่อมิให้ลูกหลุดมือในขณะโยนและยิง
หากความเมื่อยล้าของนิ้วมือเกิดขึ้นแล้วโอกาสที่ลูกเปตองจะหลุดจากมือก่อนจะมีมากขึ้น
1.4
แบบนิ้วมือทั้งสี่ชิดกันและใช้นิ้วหัวแม่มือยึดลูกเปตอง แบบนี้เป็นแบบที่นักเปตองนิยมมากที่สุดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในการแข่งขันเปตองระดับโลกแทบจะกล่าวได้ว่าผู้เล่นทุกคนจับลูกเปตองแบบนี้ทั้งในการโยนและการยิง
ลักษณะการจับนิ้วมือทั้งสี่จะโยนลูกและบังคับลูกให้อยู่ในตำแหน่งกลางฝ่ามือ
ส่วนนิ้วหัวแม่มือจะยึดลูกไว้ในลักษณะช่วยบังคับลูกให้อยู่กลางฝ่ามือเช่นกัน โดยนิ้วทั้งสี่จะทำหน้าที่ปล่อยและบังคับลูกให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ
ส่วนนิ้วหัวแม่มือทำหน้าที่กันลูกไม่ให้หลุดออกไปทางด้านข้างของนิ้วการจับลูกด้วยวิธีนี้นอกจากจะสามารถโยนและบังคับลูกได้ดีทุกระยะเช่นเดียวกับแบบที่ 3
แล้วยังมีจุดเด่นอีกบ้างประการ
คือแม้จะโยนลูกโด่งสูงๆ
ก็สามารถบังคับลูกได้โดยไม่หลุดจากมือก่อนเนื่องจากลูกเปตองถูกบังคับไว้ด้วยนิ้วมือทั้งหมด
อีกประการหนึ่งความเมื่อยล้าของนิ้วมือซึ่งเกิดจากการโยนหรือยิงติดต่อกันนานๆ
จะไม่เกิดขึ้น
จากที่ได้เสนอรูปแบบการจัดลูกเปตองทั้ง 4
แบบ ซึ่งแต่ละแบบต่างมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันไป
แต่เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกันดูแล้วจะเห็นได้ว่าวิธีการจับลูกเปตองในแบบที่ 4
เป็นแบบที่ถูกต้องตามหลักสากลนิยมที่สุด
ที่กล่าวเช่นนี้เป็นเพราะว่านอกจากจะมีจุดเด่นทั้งในการโยน การยิง
การบังคับลูกที่ได้เปรียบกว่าวิธีอื่น
รวมทั้งไม่มีข้อจำกัดแล้ว
การจับลูกเปตองวิธีนี้ผู้เล่นทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างก็ให้ความนิยมและเป็นที่ยอมรับกันมากกว่าแบบอื่น
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีๆ
ตอบลบไอ้โออยู่เยรมันมั้ยครับ
ตอบลบใช่ครับ
ลบ